วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553




ผมเลิกบุหรี่ได้ด้วยการ " หักดิบ






มันเป็นเรื่องยากพอสมควรในการเลิกบุหรี่ กับระยะทางการสูบมานานกว่า 20 ปี แต่ถ้าในทางกลับกัน ผมว่ามันเป็นเรื่องง่ายถ้าใจแข็งพอ แต่จะทรมานมาก ๆ ในช่วง ของเดือนที่สองของการเลิก เพราะอาการข้างเคียงผลกระทบการขาดสารนิโคตินจะเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งหมดกำลังใจบางคนถึงกับหันกลับมาสูบต่อเพราะทนกับอาการไม่ไหว แต่สำหรับผมคิดว่าเดินมาถึงจุดนี้แล้วและต้องชนะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ได้ (อาการข้างเคียง) จึงต้องอดทนเพราะอาการแน่นจุกหน้าอก หายใจไม่ออก ถ่ายไม่ออก ท้องอืด ตาลาย สมองชา คิดอะไรไม่ออก จนต้องเข้าห้องฉุกเฉินมาแล้ว เพราะอาการขาดสารนิโคตินกระทันหัน แต่ผมผ่านด่านนี้มาแล้วกับระยะเวลาทรมาน 1 เดือนเต็ม ๆ ตัวผมเองคิดว่าอย่างไรก็ต้องเลิกให้ได้และจะไม่หันกลับไปสูบอีก เพราะถ้ากลับไปสูบอีกคราวนี้จะหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว ตามสถิติของแพทย์ส่วนใหญ่เท่าที่ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่ ต้องหักดิบอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะเลิกได้ ถ้าลดปริมาณการสูบลงโอกาสเลิกบุหรี่ได้แทบจะเป็นศูนย์ แม้แต่หักดิบเองปริมาณการเลิกได้มีค่าเท่ากับ 5 % หรือมากกว่านิดหน่อย เท่าที่ผมศึกษาข้อมูลจากแพทย์ก่อนเลิก แล้วก็เป็นจริงหรือใกล้เคียงกับแพทย์ที่ให้ข้อมูลหักดิบถึงจะทรมานแต่ผลของมันจะทรมานเพียง 3-4 เดือนเท่านั้นที่เหลือต่อไปอีกประมาณ1-2 ปีคือการปรับสภาพความสมดุลย์ของร่างกายให้เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ระหว่างการปรับ ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่ทรมานมากเหมือนกับเดือนที่ 2-3 แต่จะปรับสภาพในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันนี้ผมมีเงินเก็บให้กับลูก ๆ เดือนละประมาณ 2,000.- นั่นคือค่าบุหรี่ที่ผมสูบในอดีต แต่ปัจจุบันเงินส่วนนี้มีความหมายกับลูก ๆ ของผมมาก เพราะเป็นค่าเงินของการศึกษาของลูก คิดผิดในอดีต (การสูบบุหรี่) ทำถูกในปัจจุบัน (เลิกสูบบุหรี่) เพื่อความสำเร็จในอนาคต (เงินค่าบุหรี่มีความหมายกับการศึกษาของลูก) ใจแข็งเท่านั้นถึงจะเลิกสูบบุหรี่ได้มันอยู่ที่ใจจริงๆ ไม่ใช่ 31 พ.ค. ไม่ใช่วันเกิดใคร ไม่ใช่วันพิเศษของใคร แต่มันอยู่ที่ใจถ้าใจแข็งพอเลิกได้แน่นอนครับผม....